เมนู

บทความมวย อัน โบฮยอน กับเส้นทางนักสู้สู่นักแสดงชื่อดัง

บทความมวย อัน

บทความมวย อัน โบฮยอน ชื่อนี้น่าจะคุ้นหูแฟนซีรีส์เกาหลีเป็นอย่างดี เพราะดาราหนุ่มรูปหล่อรายนี้กำลังมาแรงในช่วงปีที่ผ่านมา จากบทวายร้ายของซีรีส์ดราม่าชื่อดัง Itawon Class

บทความมวย อัน โบฮยอน กว่าจะก้าวมาเป็นนักแสดงแถวหน้าอย่างทุกวันนี้ เขาผ่านเส้นทางอาชีพมาแล้วมากมาย

ไม่ว่าจะเป็น นายแบบ หรือ นักมวย โดยดาราเจ้าของส่วนสูง 187 เซนติเมตร เรียนจบจากโรงเรียนกีฬาในสาขามวยสากล และเคยคว้าเหรียญทองในการแข่งขันระดับชาติมาแล้ว MTM88s ขอชวนคุณมาติดตามเรื่องราวของผู้ชายคนนี้ตั้งแต่วันที่เขายังเป็นนักมวยสากล จนถึงจุดพลิกผันที่เปลี่ยนให้เขาเดินสู่วงการบันเทิงไปพร้อมกันๆ

มวยสากล เส้นทางเดินที่ไม่ได้เลือก

บทความมวย อัน

นักแสดง, นักมวย และ นายแบบ นี่คือสามอาชีพที่ผ่านเข้าสู่ชีวิตตลอด 33 ปี ของ อัน โบฮยอน โดยการต่อสู้บนผืนผ้าใบคือเส้นทางแรกที่เขาเลือกเดิน แม้ความจริงเจ้าตัวจะไม่เคยมีความฝันในการเป็นนักมวยอาชีพเลยสักครั้ง

อัน โบฮยอน เกิดและเติบโตในเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ เขาเป็นเด็กที่มีร่างกายแข็งแรง และชอบออกกำลังกายเป็นประจำมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งความกำยำของเขาไปเข้าตาแมวมองจากโรงเรียนกีฬาปูซาน ที่ต้องการให้โบฮยอนเข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมกับโรงเรียน โดยเลือกวิชา “มวยสากล” เป็นสาขาเอก

กล่าวตามตรง แทบไม่มีเหตุผลให้โบฮยอนตอบรับข้อเสนอดังกล่าว เพราะนอกจากเจ้าตัวจะไม่สนใจกีฬามวยสากลมาก่อน พ่อแม่ของเขายังคัดค้านการเข้าโรงเรียนกีฬาสุดฤทธิ์ เนื่องจากไม่ต้องการให้ลูกขึ้นไปเจ็บตัวบนเวทีมวย แต่ท้ายที่สุด โบฮยอน ก็ตัดสินใจลองไปฝึกซ้อมและชกมวยดู ก่อนจะพบพรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ในตัวเขา

โบฮยอนกลายเป็นนักมวยฝีมือดีที่ดูมีอนาคตไกล เขาจึงตัดสินใจเข้าศึกษาต่อในระดับมัธยมกับโรงเรียนกีฬาปูซาน และเลือกกีฬามวยสากลเป็นสาขาเอก และถึงแม้เจ้าตัวจะไม่เคยคิดฝันถึงการเป็นนักกีฬามาก่อน แต่โบฮยอนก็ฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อพัฒนาฝีมือของตัวเองให้ดีและดียิ่งขึ้น จนเจ้าตัวแทบไม่ได้เล่นกีฬาอื่นเลย เนื่องจากทุ่มเวลาไปกับกีฬามวยทั้งหมด

มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับเด็กหนุ่มชาวปูซาน โบฮยอนได้รับอาการบาดเจ็บหลายครั้งระหว่างการชกมวย โดยเฉพาะอาการบาดเจ็บบริเวณกระดูกนิ้วมือที่ผ่านการหักมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ทำให้พ่อแม่ของโบฮยอนเป็นกังวลใจมาก และเริ่มจะแนะนำให้ลูกชายเลือกทางเดินอื่นในชีวิต

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่โบฮยอนจะตัดสินใจถึงอนาคตของตัวเอง เพราะตลอด 6 ปีในช่วงเวลาวัยมัธยม เขาใช้ชีวิตอยู่ในรั้วโรงเรียนกีฬามาโดยตลอด และถึงแม้จะฝึกหนักและเจ็บตัวจนแทบหมดพลังงานในการใช้ชีวิต แต่โบฮยอนก็ถือว่าเป็นนักมวยที่มีความสามารถเป็นอย่างมาก เขาเคยคว้าเหรียญทองในการแข่งขันมวยสมัครเล่นระดับประเทศ รวมถึงคว้ารางวัลจากการแข่งขันที่จัดขึ้นภายในเมืองปูซานได้หลายครั้ง

เหตุผลหนึ่งที่ทำให้โบฮยอนพิชิตชัยชนะบนเวทีมวยอย่างง่ายดาย คือส่วนสูงที่มากถึง 187 เซนติเมตร เมื่อบวกกับร่างกายแสนกำยำ เขาไม่ต่างจากเฮอร์คิวลิสจอมพลังที่ไล่อัดคู่ต่อสู้แบบสบายๆ ซึ่งร่างกายที่สมบูรณ์แบบราวกับเทพจุติมาเกิดบนมนุษย์โลกของโบฮยอนนั้นไม่ได้เข้าตาผู้คนในวงการมวยสากลอย่างเดียว แต่ยังไปเข้าตาแมวมองจากวงการเดินแบบด้วย

โบฮยอนจึงได้รับคำเชื้อเชิญให้เข้ามาทำงานในวงการเดินแบบ และถูกแนะนำให้ศึกษาต่อในสาขาโมเดลและแฟชั่น ซึ่งถือเป็นการหันหลังให้แก่วงการกีฬาและทุกสิ่งที่เขาเรียนรู้มาในชีวิตมัธยม ทางโบฮยอนเองก็ได้นำข้อเสนอนี้ไปขบคิด เนื่องจากตัวเขาเองไม่มั่นใจกับอนาคตบนเส้นทางนักสู้มากนัก เนื่องจากกีฬามวยสากลไม่เป็นที่นิยมในประเทศเกาหลีใต้สักเท่าไหร่

สองเส้นทางที่เขาถูกแนะนำให้เลือกเดิน ไม่ว่าจะเป็น นักมวย หรือ นายแบบ ทั้งหมดต่างไม่ใช่อาชีพในฝันของโบฮยอนทั้งสิ้น ในที่สุดโบฮยอนจึงกลับไปมองความต้องการที่แท้จริงของเขา ซึ่งนำมาสู่คำตอบสำคัญในชีวิต และช่วยให้เขาเลือกเดินบนเส้นทางที่ถูกต้องและประสบความสำเร็จอยู่ในปัจจุบัน

เดินหน้าสู่วงการบันเทิง

บทความมวย อัน

“ผมชกมวยตลอดช่วงมัธยมต้นและมัธยมปลาย แถมยังใช้ชีวิตอยู่ที่ปูซานอีก เพราะฉะนั้น ผมไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งจะก้าวเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงได้” โบฮยอน เริ่มต้นเล่าถึงจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขากลายเป็นนักแสดงอย่างทุกวันนี้

“แต่ระหว่างที่ผมชกมวย ผมมักจะไปดูหนังกับเพื่อนเป็นกลุ่มใหญ่เสมอ หลังจากดูหนังเหล่านั้นมากๆเข้า ผมก็คิดอยากจะเป็นนักแสดงขึ้นมา แต่ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการแสดงเลย”

“ผมจึงคิดว่า ลองไปเริ่มต้นจากการเดินแบบดูแล้วกัน ผมเลยยื่นเข้าคณะเดินแบบในมหาวิทยาลัยไป ซึ่งผมก็โชคดีนิดหน่อย เพราะเหรียญทองจากการแข่งขันชกมวยมันช่วยให้ผมเข้าเรียนต่อที่นั่นจนได้”

ภาพยนตร์สองเรื่องที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของโบฮยอนมาก คือ Champion (2002) หนังที่เล่าเรื่องราวชีวประวัติของ คิม ดึกกู นักมวยที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ ซึ่งเสียชีวิตบนสังเวียนในปี 1982 และ Crying Fist (2005) ภาพยนตร์น้ำดีอีกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวงการมวย ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในเกาหลีใต้ และได้เข้าฉายในรอบ Directors’ Fortnight ที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ปี 2005

โบฮยอนประหลาดใจมากหลังจากได้ชมภาพยนตร์ทั้งสองเรื่อง เพราะท่วงท่าการชกของนักแสดงบนหน้าจอ ลอกเลียนจากนักมวยอาชีพแบบไม่มีผิดเพี้ยน เขาหลงไหลศาสตร์การแสดงแทบจะในทันที พลางคิดในใจว่าหากนักแสดงยังสามารถชกมวยบนจอภาพยนตร์ได้ดีขนาดนี้ เขาที่เป็นนักมวยตัวจริงย่อมถ่ายทอดการแสดงที่ยอดเยี่ยมกว่านั้นออกมาได้อย่างแน่นอน

ความฝันที่ติดแน่นในใจของโบฮยอนนี้ ช่วยให้เขาตัดสินใจหันหลังให้กับวงการกีฬาอย่างเต็มตัว ด้วยการเข้าศึกษาต่อในสาขาเดินแบบ คณะศิลปะแฟชั่นและการเดินแบบ มหาวิทยาลัยแดคยอง และเริ่มต้นอาชีพในฐานะนายแบบ ซึ่งโบฮยอนหวังใช้เส้นทางนี้ต่อยอดไปสู่เส้นทางการแสดงในอนาคต

บทความมวย อัน

โบฮยอนประสบความสำเร็จตามฝันที่ตั้งใจไว้ เพราะหลังจากโลดแล่นอยู่บนแคตวอล์กนาน 5 ปี เขาตัดสินใจหันหลังให้กับวงการเดินแบบและมุ่งหน้าสู่สายการแสดงเต็มตัว ซึ่งขณะนั้นนายแบบที่เปลี่ยนอาชีพเป็นนักแสดงกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากกระแสของ คิม อูบิน ที่โด่งดังแบบฉุดไม่อยู่จากเรื่อง School 2013 และ The Heirs

อดีตนักมวยจากเมืองปูซานจึงได้เดบิวต์ในวงการบันเทิงกับซีรีส์เรื่อง Golden Cross ที่ออกฉายในปี 2014 และต้องรับบทเป็นตัวประกอบอยู่นานราว 4 ปี โดยซีรีส์ที่โด่งดังมากที่สุดและได้โอกาสเข้าไปมีส่วนร่วม คือ Descendants of the Sun ที่ออกฉายในปี 2016 โดยเขารับบทเป็น อิม กวังนัม จ่าทหารผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดในทีมของพระเอก

กว่าโบฮยอนจะก้าวขึ้นมาเป็นนักแสดงนำของดราม่าจริงๆ ต้องรอถึงปี 2019 เมื่อเขาได้รับบทนำในเรื่อง Her Private Life ก่อนจะตามมาด้วยบทบาท จาง กึนวอน วายร้ายของเรื่อง Itaewon Class ซึ่งตัวละครนี้เองที่ทำให้ชื่อเสียงของโบฮยอนในฐานะนักแสดงดังเป็นพลุแตก จากการตีบทแตกจนถอดแบบตัวละครดังกล่าวที่ปรากฏบนเว็บตูนอันเป็นต้นฉบับลงสู่จอโทรทัศน์แบบไม่มีผิดเพี้ยน

ความสำเร็จของโบฮยอนใน Itaewon Class ช่วยให้เขาคว้าบทบาท จอน พิล-โด พระเอกของซีรีส์เรื่อง My Name ซีรีส์แนวแอ็กชั่น-อาชญากรรมที่ออกฉายพร้อมกันทั่วโลกผ่านทาง Netflix ซึ่งความร้อนแรงของนักแสดงรายนี้ยังไม่จบลง เพราะในปี 2022 เขาได้จองตำแหน่งพระเอกของละครเรื่องใหม่ที่จะออกฉายทางช่อง tvN ไว้เรียบร้อยแล้ว

อีกสักครั้งบนเวทีต่อสู้

ถึงแม้ มวยสากล กับ อัน โบฮยอน จะเดินทางเป็นเส้นขนานนับตั้งแต่เจ้าตัวหันหน้าเข้าสู่วงการเดินแบบ แต่ใช่ว่าเขาจะไม่เคยสวมนวมขึ้นสังเวียนอีกเลย เพราะย้อนกลับไปในปี 2016 โบฮยอน เคยขึ้นชกในแมตช์การกุศล แถมยังเป็นการต่อสู้แบบ MMA เสียด้วย

รายการดังกล่าวมีชื่อว่า Angel’s Fighting Championship ซึ่งเป็นค่ายศิลปะป้องกันตัวแบบผสมในประเทศเกาหลีใต้ ที่ได้จัดแมตช์พิเศษเป็นกิจกรรมการกุศลเพื่อระดมทุนช่วยเหลือเด็กที่ป่วยด้วยโรคต่างๆที่พบเจอได้ยากและไม่อาจรักษาให้หายได้ โดย อัน โบฮยอน มีโปรแกรมพบกับดาราแอกชั่นรายหนึ่งจากประเทศเวียดนาม ที่ชื่อว่า “คาน ซี ต่อง”

“ผมกำลังถ่ายละครอยู่ และผมได้รับการแจ้งข่าวว่า ตัวผมเองสามารถช่วยเหลือเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือได้ เพราะฉะนั้น ผมดีใจมากที่มีส่วนร่วมกับการชกครั้งนี้ ผมหวังว่าแมตช์นี้จะช่วยให้ให้เด็กเหล่านั้นแข็งแกร่งและมีกำลังใจมากขึ้น” โบฮยอน ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่ขึ้นชกแมตช์การกุศลนี้

เมื่อเสียงระฆังดังขึ้น โบฮยอน แสดงทักษะหมัดมวยที่เขาเก็บซ่อนมานาน การชกดำเนินไปไม่ถึงหนึ่งนาที เขาก็รัวหมัดจนส่งคู่ต่อสู้ลงไปกองบนพื้นได้สำเร็จ และหลังจากซัดหมัดขวาเข้าไปเต็มหน้าดาราชาวเวียดนามอีกครั้ง การต่อสู้จึงยุติลง เพราะคู่ต่อสู้ของเขาขอยอมแพ้ โบฮยอนจึงเอาชนะในไฟต์ดังกล่าวอย่างง่ายดาย หลังเวลาผ่านไปไม่ถึง 2 นาที

การชกครั้งนี้ของโบฮยอนเพิ่งมาโด่งดังในช่วงรอบปีที่ผ่านมา หลังเขามีชื่อเสียงจากซีรีส์เรื่อง Itaewon Class ความลับที่เขาเคยเป็นนักมวยในสมัยเรียนจึงไม่ใช่เรื่องที่ถูกปกปิดอีกต่อไป และทุกวันนี้ ประวัติที่เขาเคยเป็นนักมวยมาก่อนแทบจะถูกเขียนในทุกบทสัมภาษณ์ที่เขาไปปรากฏตัวตามสื่อต่างๆ

บทความมวย อัน

เส้นทางของนักแสดงหนุ่มคนนี้จึงยังอีกยาวไกล น่าติดตามเหลือเกินว่า สักวันหนึ่ง อัน โบฮยอน จะได้โอกาสโลดแล่นบนภาพยนตร์ด้วบบทบาทนักมวยอย่างที่เขาฝันไว้หรือไม่? แต่จนกว่าจะถึงวันนั้น แฟนคลับของดารารูปหล่อรายนี้สามารถติดตามการแสดงของเขาได้ทางซีรีส์เรื่อง My Name ซึ่งคุณจะได้เห็นโบฮยอนออกลีลาต่อสู้ดุเดือดไม่แพ้บนสังเวียนแน่นอน


ติดตามข่าวสารมวยไปกับหมัดต่อหมัด คลิก 

อยากรู้เรื่องมวยฉับไวก่อนใคร แอดมาที่นี่ Line : @UFA88SV1

Facebook : https://www.facebook.com/punchboxing88