เมนู

บทความมวย ตะวันฉาย จากลูกคุณหนูสู่ยอดมวยไทยแห่งยุค

บทความมวย ตะวันฉาย

บทความมวย ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ซูเปอร์สตาร์ค่าตัวเงินล้านที่พ่วงดีกรีแชมป์หลายสถาบันและรางวัลเกียรติยศอีกมากมาย

บทความมวย  ตะวันฉาย นักมวยหน้าหล่อรายนี้เคยผ่านทั้งจุดสูงสุดและต่ำสุดในชีวิต  จากครั้งหนึ่งมีชีวิตที่อู้ฟู่ระดับเป็นคุณหนูจนกระทั่งชีวิตพลิกผันสู่การเป็นนักมวยอาชีพเพื่อเลี้ยงตัว

วันนี้ MTM88s จะพาย้อนรอยเส้นทางชีวิตดั่งละครที่หล่อหลอมให้ ตะวันฉาย กลายเป็นยอดมวยแห่งยุคในวันนี้

ชีวิตในวัยเด็ก

ตะวันฉาย ชื่อจริง “ณรงค์ศักดิ์ แก้วมาลา” ชื่อเล่นว่า “กันต์” เกิดเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2542 มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน เจ้าตัวเป็นคนเล็ก เติบโตในครอบครัวมีอันจะกิน บิดาเป็นนักธุรกิจใหญ่ในจังหวัดชลบุรี ลงทุนร่วมกับพี่เขยและเครือญาติทำธุรกิจท่องเที่ยวในเกาะล้าน จ.ชลบุรี ในนาม “ทัวร์วิไลสมุทร” มีเรือข้ามฝั่งหลายสิบลำ นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารในเกาะล้านไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย

ในวัยเด็ก ตะวันฉาย จำได้ดีว่าเขาใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมีรถไปรับไปส่งที่โรงเรียน อยากได้ก็ได้ ทั้งเสื้อผ้าหรือของเล่น เรียกได้ว่าเป็น “คุณหนูกันต์” เลยก็ว่าได้

ครอบครัวพลิกผันเพราะพิษเศรษกิจ

ปี 2540 เกิด “วิกฤติต้มยำกุ้ง” ส่งผลให้กิจการต่าง ๆ ได้รับผลกระทบอย่างหนักและทยอยกันปิดตัวลง รวมถึงธุรกิจของครอบครัว ตะวันฉาย ด้วยเช่นกัน พ่อของ ตะวันฉาย เริ่มทยอยขายทรัพย์สมบัติที่มีเพื่อประคับประคองครอบครัว จากเรือ รถ และบ้าน จนสุดท้าย ทั้งครอบครัวก็ต้องมาเช่าบ้านเล็กอาศัยอยู่

ในวัยเพียง 7 ขวบ ตะวันฉาย เริ่มสงสัยว่าทุกอย่างเปลี่ยนไป จากข้าวของที่เคยมี เคยได้ ก็หายไปจากบ้านทีละอย่าง แต่แม้จะรับรู้ว่าสถานะของครอบครัวเริ่มลำบากและไม่สบายอย่างที่เคย แต่เขากลับไม่เคยน้อยใจในโชคชะตาเลย



ชีวิตพลิกเพราะมวยไทย

ด้วยอุปนิสัยเป็นคนชอบดูมวยมาตั้งแต่เด็ก ตอนอายุ 7 – 8 ขวบ ขณะที่พ่อขับรถผ่านเวทีมวยเทพประสิทธิ์ พัทยา ตะวันฉาย เห็นนักมวยกำลังชกกันทำให้อยากชกบ้าง จึงให้พ่อพาไปฝึกหัดมวยที่ค่ายเพชรรุ่งเรือง ของ “ครูนุ” วิษณุชัย เพชรรุ่งเรือง อดีตมวยดังเมืองพัทยา ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ ๆ บ้าน โดยมี “อนันต์ศักดิ์ เปียปลื้ม” เป็นครูมวยคนแรก

หลังจาก ตะวันฉาย หัดมวยได้สักระยะก็ขึ้นชกโชว์ที่บาร์แห่งหนึ่งแถวชายหาดเมืองพัทยา ในนาม “จตุคาม เพชรรุ่งเรือง” ไฟต์แรกหนุ่มน้อยเปิดตัวได้สวย โดยเอาชนะน็อกคู่ชกเพียงยกแรกจากการเตะซ้ายอย่างเดียว ได้รับเงินรางวัลเป็นทิปน้ำใจจากชาวต่างชาติราว 800 บาทในวันนั้น

จตุคาม พัฒนาฝีมือขึ้นอย่างรวดเร็วจากการเดินสายชกมวยเด็กในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และขยายวงกว้างไปทั่วภาคตะวันออกต่อด้วยอีสาน จนกระทั่งเข้ามาชกในกรุงเทพฯ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี ช่วงอายุ 14 ปี กับน้ำหนักตัวประมาณ 35 – 36 กก.

ซบอกค่ายใหญ่ พี.เค.ฯ

ช่วงที่ จตุคาม เดินสายชกมวยไปกลับกรุงเทพฯ – ชลบุรี ราว 2 ปี ขณะนั้นได้รู้จักกับ “พระจันทร์ฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ซึ่งเป็นทั้งไอดอลและนับถือเป็นพี่ชาย จึงขอไปอยู่ที่ค่าย พี.เค.แสนชัยฯ ด้วย โดยให้ พระจันทร์ฉาย ช่วยพูดคุยกับ “เสี่ยแขก” สมชาย เทศรุ่งเรือง หัวหน้าค่ายมวยให้

หลังเรียนจบ ม. 3  จตุคาม จึงย้ายมากรุงเทพฯ โดยอยู่ภายใต้การดูแลของค่ายมวย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม และใช้ชื่อ “ตะวันฉาย” นับแต่นั้น (พระจันทร์ฉาย เป็นคนตั้งให้) เขามุ่งมั่นตั้งใจฟิตซ้อมอย่างเต็มที่ โดยได้แรงผลักดันจากเหล่านักมวยชั้นนำในค่าย และยังได้ “สมหวัง มาทอง” เทรนเนอร์คนเก่งช่วยสอนเชิงให้ ยิ่งทำให้มีความกระตือรือร้นมากขึ้นเป็นทวีคูณ

พีคตั้งแต่ยังหนุ่ม

บทความมวย ตะวันฉาย

ความสำเร็จแรกของ ตะวันฉาย ในเส้นทางอาชีพนักมวย เริ่มต้นด้วยการครองแชมป์ประเทศไทย รุ่น ​126 ปอนด์ ในปี 2560 ตอนอายุ 18 ปี จากนั้นคว้าแชมป์สมาคมกีฬา​มวยไทย​นาย​ขนม​ต้ม รุ่น ​140 ปอนด์ ในปีต่อมา

เท่านั้นยังไม่พอ ปี 2561 ถือเป็นปีแห่งความรุ่งโรจน์ของ ตะวันฉาย เมื่อเขาได้รับรางวัลเกียรติยศอย่างท่วมท้นในฐานะคลื่นลูกใหม่ของวงการที่กำลังสร้างฟอร์มอย่างร้อนแรง โดยคว้ารางวัล ยอดมวยสยามกีฬาอวอร์ด, นักมวยยอดเยี่ยมสนามมวยเวทีลุมพินี, นักมวยขวัญใจมหาชนยอดเยี่ยม, รางวัลนักมวยไทยอาชีพดีเด่น และ นักมวยไทยอาชีพดีเด่นการกีฬาแห่งประเทศไทย

ฉายา “ซ้ายดารา”

บทความมวย ตะวันฉาย

ตะวันฉาย เคยได้รับฉายา “ซ้ายเพอร์เฟกต์” เป็นฉายาแรก แต่พอหลังจากเอาชนะ “กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย” เมื่อเดือนกันยายน 2561 ก็ได้รับฉายาใหม่จากสื่อมวลชนว่า “ซ้ายดารา” ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าน่าจะเป็นเพราะตนเองมีลักษณะรูปร่างหน้าตาขาว ตี๋ สูงยาว ดูสะอาดสะอ้าน แรก ๆ เจ้าตัวก็เขินอยู่เหมือนกันแต่ไป ๆ มา ๆ ก็รู้สึกชอบฉายานี้

ว่าที่ซูเปอร์สตาร์ ONE คนต่อไป

บทความมวย ตะวันฉาย

หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงในวงการมวยไทย ตะวันฉาย หมายตาที่จะก้าวขึ้นสร้างชื่อในเวทีระดับโลกอย่าง ONE และเขาก็ไม่ผิดหวังเมื่อเปิดตัวครั้งแรกอย่างปังด้วยการแจกน็อกคู่แข่งชาวไอริช “ฌอน แคลนซี” และยังโชว์ฟอร์มแกร่งคว้าชัยสองครั้งจากสามไฟต์ใน ONE ส่งให้เขาเป็นที่จับตามองในฐานะดาวรุ่งฝีมือเยี่ยมที่อาจกลายเป็นซูเปอร์สตาร์คนต่อไป

ปัจจุบัน ตะวันฉาย เปิดรับความท้าทายครั้งใหม่โดยตัดสินใจขยับน้ำหนักขึ้นมาสู้ในรุ่น เฟเธอร์เวต (70.3 กก.) จากเดิมที่อยู่ในรุ่นแบนตัมเวต (65.8 กก.) เพื่อล่าฝันในการครองแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวตให้ได้

โดยเส้นทางสู่บัลลังก์ของ ตะวันฉาย ก็อยู่ใกล้แค่เอื้อมเพราะ เขาสามารถคว้าชัยในไฟต์ที่เจอกับนิคลาส และขึ้นแท่นผู้ท้าชิงแชมป์โลกรายต่อไปทันที คงต้องติดตามลุ้นกัน


ติดตามข่าวสารมวยไปกับหมัดต่อหมัด คลิก 

อยากรู้เรื่องมวยฉับไวก่อนใคร แอดมาที่นี่ Line : @SPORT88s

Facebook : https://www.facebook.com/punchboxing88